วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

นครศรี..ที่..เขารามโรม ๖ ( Time to Relax ^___^ )


หลังจากที่เราได้ดูโลมาแล้ว มีความรู้สึกเหมือนบรรลุเป้าหมายทุกอย่างแล้ว 
ภารกิจสำเร็จ !....ประมาณนั้น อิอิ

เริ่มหิวๆนิดนึงแล้วอะ นัดสาวๆที่ไม่ได้ไปลงเรือไว้ที่ "น้ำตกโฉ" ไปถึงที่นั่น พบว่าเป็นลำธารเล็กๆ น้ำเย็นใสสะอาด มีชาวบ้านไปเล่นน้ำที่นั่นกันเยอะทีเดียว ตั้งแต่รุ่นคุณยายจนถึงรุ่นหลาน ริมลำธารปลูกเป็นศาลาไม้ไว้สำหรับนั่งทานอาหาร มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน
เหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็น"น้ำตก"แต่อย่างใด ซึ่งป้าไม่ได้ถามหาน้ำตก เพราะมีเรื่องอื่นเรียกร้องความสนใจไปซะก่อน ^^ น้องๆชวนมานั่งที่สะพานไม้ หย่อนเท้าลงไปแช่น้ำเล่น.....แอร๊ยยย  ๕๕๕๕ จั๊กกะจี้อะ 
ตรงนี้เป็นที่สปาเท้าด้วยปลาตามธรรมชาติค่า ไม่เสียตังด้วย ป้าบ้าจี้ ลองหย่อนเท้าลงไปนิ่งๆ พอปลามาตอดตัว ๒ ตัว ก็ไม่สู้แล้ว ๕๕๕ ปล่อยคนอื่นสปาตามสบาย ป้าไปสั่งของกินเล่นมารองท้องดีกว่า


รองท้องไม่ทันรัย สาวๆก็มา พร้อมกับบอกว่าต้องรอสักพัก สั่งของทะเลสดๆไว้ เดี๋ยวเราไปรับแล้วไปให้ร้านอาหารทำให้ ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ เพราะว่าแม่ส่ง "ขนมโค"มาฝากด้วย เคยทานมั้ยคะ เป็นแป้งนิ่มๆ เม็ดกลมๆ ข้างในสอดไส้ด้วยเม็ดน้ำตาล(คิดว่าน้ำตาลปึกน่ะค่ะ) ข้างนอกคลุกมะพร้าว อร่อยดี แป้งนุ่ม หอมนิดๆ ตอนเคี้ยวเจอเม็ดน้ำตาลยิ่งอร่อย อิอิ


พอได้เวลา เราก็มุ่งหน้าไปหาดแขวงเภา ตรงนี้เป็นท่าเรือเฟอรี่เก่า เป็นอ่าวเล็กๆ หาดทรายขาวสวยทีเดียว มีร้านอาหารอยู่ ๒-๓ ร้าน แต่เรามาที่ร้านเคียงทะเลซีฟู้ดค่ะ เพราะสาวๆรู้จักกับเจ้าของร้าน และเขาว่าฝีมือทำอาหารสุดยอด..เดี๋ยวก็รู้..


ตอนที่เราไปถึงสักบ่ายสองเศษๆแล้ว ลูกค้ายังมีอยู่หลายโต๊ะ และทะยอยมาอีกเรื่อยๆ เรารอสักพัก อาหารของเราก็ถูกยกมา โอยยยยย  กินกันจนอยากลงนอนทีเดียว เรามีปูนึ่ง กุ้งอบเกลือ ปลาเผา ปลานึ่งมะนาว กั้งทอดกระเทียม แกงป่าปลา ปลาหมึกย่าง อร่อยสุดๆ ทั้งความสดของวัตถุดิบ และฝีมือคนทำ  ปกติป้าไม่ค่อยทานกั้ง แต่ที่เขาทอดกระเทียมมาให้นี่อร่อยเหลือเกิน เค็มๆหวานๆ พูดแล้วอยากทานอีก ^^


ระหว่างที่ผู้ใหญ่ใช้เวลาอันยาวนานในการกิน ขนาดย้ายโต๊ะ ๓ รอบ คือ ย้ายจากข้างใน มาริมทะเล เพื่อดูเด็กๆเล่นน้ำไปด้วย แล้วย้ายเข้าร่มเมื่อฝนตก เด็กๆก็สนุกกับทะเล และ แอพถ่ายรูปของป้ามากมาย

เรากินกันตั้งแต่บ่ายสาม จนฟ้ามืดถึงได้กลับน่ะ ขากลับเจอด่านตรวจ เอาล่ะลุ้นกันว่าจะผ่านมาได้หมดมั้ย เพราะคนขับมีแอลกอฮอลล์อยู่ในตัวกันบ้างแทบทั้งนั้น คันแรกผ่านด้วยดี อาจจะเพราะพ่อวุฒิมีผู้โดยสารเป็นสาวน้อย ๒ สาว คันป้าก็ดูท่าทางเป็นนักท่องเที่ยวผู้เรียบร้อย คันที่ ๓ รีบบอกคุณตำรวจก่อนเลยว่า ขับตามนาย นายมาจากกรุงเทพ ??? น้องบอกว่า เวลาบอกแบบนี้ ตำรวจจะไม่ดูนาน เพราะไม่รู้ว่านายเป็นใคร อ้อ.... ส่วนคันสุดท้าย ที่เป็นสาวล้วน และเป็นชาวขนอม กลับไม่ผ่าน ด้วยข้อหาทะเบียนรถขาดต่ออายุ ต้องให้คุณพ่อที่เป็นตำรวจเหมือนกันโร.มาเคลียร์ให้ อิอิ

คืนนั้น เราเล่นน้ำสระ พักผ่อน ดูทีวี นั่งคุยกันสักพัก ก็แยกย้ายกัน เพราะวันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงาน น้องๆที่ไม่ได้ลางานไว้ต้องกลับไปทำงาน หวังว่าเราจะได้เที่ยวกันอีกนะคะ มีนัดแนะกันถึงทริปหน้า ว่าจะเป็น..เกาะเหลาเหลียง หรือ เขาสก..ดีน๊อ ^^

เช้าวันที่ ๘ พค. วันสุดท้าย เป็นวันตัวใครตัวมัน คือ ใครอยากทำอะไรก็ตามสบาย ขอแค่พร้อม check out ตอนเที่ยงเท่านั้น งัยๆ ป้าก็ตื่นตะเช้าอยู่ดี ยังหวังจะได้เห็นไข่แดงเหนือท้องทะเล อิอิ ลุกมาตั้งแต่หกโมงเช้า ออกมาเดินเล่นชายหาด..พระจันทร์ยังไม่ตกตามเคย อากาศดี๋ดี.. และสุดท้ายก็ไม่ได้เห็นไข่แดงเหมือนเมื่อวาน 


หาดตอนเช้าที่นี่สงบดี มีคนตื่นมาเดินเล่นไม่กี่คน นานๆมีเรือแล่นผ่านมาสักลำ และมีนกน้ำโฉบมาเป็นเพื่อนแก้เหงาบ้าง มัวแต่นั่งมอง พอเขาจะไป ก็หยิบกล้องมาถ่ายรูปไม่ทัน

หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว ก็เดินเล่นเก็บภาพนั่นนี่ไปเรื่อย
ดอกไม้รอบๆรีสอร์ทค่ะ

ร่องรอยที่ชายหาด..



น้ำทะเลที่นี่ใส ปูเสฉวนตัวโต๊..โต ^^

สุดท้าย..ป้าก็ลงไปเล่นน้ำ คลื่นเรียบมาก ได้นอน(ใส่แว่นดำ)ลอยตัวอยู่ในทะเล แหงนหน้ามองฟ้าใส กว้าง ฟังเสียงคลื่นกระซิบอยู่ริมหู บรรยากาศสงบมาก รู้สึก"นิ่ง" ดีจังค่ะ.. เป็นคนชอบนอนลอยตัวในทะเล ปล่อยให้ตัวเราระเรื่อยไปตามสายน้ำ ยามนั้น ปัญหาและความเครียดหายไปไหนก็ไม่รู้

ภาพ "บ้านศิวิไลซ์รีสอร์ท"ถ่ายเข้ามาจากกลางทะเลค่ะ ^^

เรา check out ตามเวลาปกติ แล้วออกไปขับรถดูรอบๆ มีรีสอร์ทหลายแห่ง เราเข้าไปที่ราชาคีรี ก็สวยดีค่ะ ที่จริงอยากเห็น อาว่ารีสอร์ท แต่ไม่ผ่านอะ 

ไปหาอะไรใส่ท้องกันดีกว่า น้องพามาทานที่สิชล ที่ภัตตาคารโกโตน (หรือโก้โตน ก็ไม่รู้ หน้าร้านมีเขียนไว้ทั้งสองแบบ) ร้านที่ทานเป็นสาขา ๒ เห็นว่าสาขาแรกอยู่ในอ.สิชล เขาว่า ร้านนี้มีชื่อ ก็คงดีหรอก ถึงมีสาขา ๒ แถมขนาดร้านยังใหญ่โตด้วย

เห็นป้ายหน้าร้าน ขึ้นว่า ขาหมูรสดี และอยู่ในเมนูแนะนำด้วย ลองสั่งมาดู ก็นุ่มนวลดี แต่ป้าว่า ขาหมูนกน้อยถูกจริตป้ามากกว่านะ แกงส้ม และปลาเค็มใช้ได้อร่อยดี นอกนั้นเฉยๆอะ คือ ยำผักกูด ปลากระพงผัดฉ่า โดยรวมแล้ว ป้าว่าสู้อาหารฝีมือของแม่น้องๆทั้งสองแม่ที่ทำให้ทานในทริปนี้ ไม่ได้อะค่ะ
(รู้จักมั้ยคะ ขาหมูนกน้อย อยู่ริมถนนเพชรเกษมที่แยกละแมน่ะค่ะ ใครผ่านลองแวะชิมดู วันนึงๆเขาต้มขาหมูเป็นร้อยๆขาเลย เมนูที่อร่อยมากอีกอย่างคือ ไก่ผัดพริกแกง ^^) 

อิ่มหนำดีแล้ว น้องก็พาแวะเรื่อยมาตามทาง เข้าไปดูเขาพลายดำ ที่นี่เขาว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของอ.สิชล ตอนที่ป้าไปถึงลมแรงมาก กำลังจะมีพายุ แต่ก็เห็นล่ะว่า หาดเขาสวยดีอยู่ ที่นี่มีรีสอร์ทให้พักด้วย ท่าทางจะเงียบกว่าทางขนอม

แต่ที่ทำป้าประหลาดใจ คือ ต้นไม้ที่ด้านหน้านั้น มีลูกเหมือนมังคุดเลย แต่ต้นมันไม่ใช่ ป้าเห็นแล้วหันไปมองหน้าน้อง ที่มีพื้นเพเป็นชาวสวน ก็ทำหน้างงเหมือนกัน จนกระทั่งเห็นป้ายว่าเป็นต้น"เกร็ดกระโห้"  แหม ถ้าต้นนี่ไม่ได้ยืนรับแขกอยู่แบบนี้ ป้าจะแอบเก็บลูกมาผ่าดูข้างในว่า เหมือนมังคุดด้วยไหม..จริงๆนะ


จากเขาพลายดำ ก็ไปดูหาดสิชล ทรายที่นี่จะออกแดงๆ ไม่ขาวเหมือนทางขนอมอะ หาดหินงาม ตามชื่อเลย คือมีตะหิน แล้วฝนก็ตกพรำๆ น้องตั้งใจจะพาเข้าเมืองนครอีกรอบ แต่ป้าเห็นว่า น้องต้องกลับหาดใหญ่เย็นนี้ จึงให้ไปส่งสนามบินเลยดีกว่า นั่งเล่นมือถือไป เดี๋ยวก็ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว จึงมุ่งหน้าไปสนามบินกัน

ระหว่างทางฝนตกพรำๆตลอดทาง สักพักเจอรถติด ให้นึกถึงกรุงเทพ ที่เราชินปากกันว่า "ฝนตก..รถติด"  แต่ที่นี่ไม่ใช่หรอก เกิดอุบัติเหตุน่ะค่ะ พอเราผ่านที่เกิดเหตุ ป้าหันไปดู ใจหายเลย รถคันนี้ เพิ่งแซงเรามา..สัก ๒๐ นาทีเองมั้ง จำได้อะ ตอนนั้นยังคิดอยู่ว่า ขับรถเปรี้ยวจริง นี่ล่ะนะ แค่เสี้ยววินาทีเดียว อะไรๆก็พลิกผันได้

และแล้ว เวลาร่ำลาก็มาถึง ขอบใจน้องชายคนนี้มากๆที่ต้อนรับขับสู้ป้าเป็นอย่างดี แถมลางานมาเที่ยวกับป้าด้วย ถ้าไม่ได้น้องช่วยจัดการ ป้าคงไม่มีโอกาสได้ขึ้นเขารามโรม ได้เห็นอะไรหลายอย่างแบบนี้ และต้องขอบใจน้องๆที่ขนอม ที่ช่วยพาไปดูโลมาและหาอะไรๆที่อร่อยเหลือหลายให้พี่ได้ทาน รวมถึงน้องๆที่มาแจมเที่ยวเป็นช่วงๆ ทำให้ทริปนี้มีความหมายมากขึ้น..ขอบคุณค่ะ ^^

สนามบินที่นครกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง ทำให้พื้นที่ค่อนข้างคับแคบและไม่มีอะไรน่าสนใจ โดยส่วนตัวคิดว่า กิจกรรมที่เหมาะสำหรับสนามบิน คือ นวด เพราะเป็นการฆ่าเวลาได้ดี เคยไปที่สนามบินอุดรก่อนเวลามากๆแบบนี้ ไปนั่งให้เขานวด ก็รู้สึกว่าแป๊บเดียว และก็เห็นคนนวดไม่ว่างอยู่ตลอดเลย

ค่อนข้างแปลกใจว่า มีคนที่กลับไฟลท์เดียวกับป้ามานั่งรอกันอยู่เพียบเลย ทั้งๆที่ป้ามาก่อนเวลาประมาณเกือบ ๓ ชั่วโมงน่ะ  เวลามาต่างจังหวัด คนพื้นที่มักจะบอกว่าไม่ต้องรีบๆ แค่นี้เอง (ขนาดเคยวิ่งขึ้นเครื่องคนสุดท้ายที่อุบลมาแล้ว อิอิ) เลยเดาว่า การเดินทางมาสนามบินนคร จากตัวเมืองโดยรถสาธารณะ น่าจะยังไม่สะดวกเท่าที่ควร

การเดินทางครั้งนี้ ถือเป็น Perfect Trip เพราะราบรื่น สมประสงค์ สนุก และมีความสุขค่ะ ^______^



The End ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น