ไม่ได้เดินดูรีสอร์ทหรอกค่ะ ถ่ายรูปมาแต่บ้านที่พัก
ต้มเลือดหมูร้อนๆ เริ่มต้นวัน..มากับป้าตุ่ม เรื่องกินเรื่องใหญ่ ก่อนเที่ยว ต้องหารัยใส่ท้องซะก่อน...อิอิ
แล้วเราก็จะมุ่งหน้าไปอุทยานแห่งชาติปางสีดา เพื่อดูผีเสื้อกัน แต่ระหว่างทางแวะเยี่ยมสถานีรถไฟสระแก้วกันก่อนนะ เมื่อวานเราหมายตากันแล้วว่า ดูย้อนยุค น่ารักดี
เราไปถึง "อุทยานแห่งชาติปางสีดา" ตอนเก้าโมงเศษๆ คุณเจ้าหน้าที่คนเมื่อวานที่บอกให้เรากลับบ้านหายไปไหนไม่รู้ เขาจะได้ดีใจว่า เรากลับมาตอนเช้าตามที่เขาแนะนำ
จ่ายเงินรวม 150 บาท เป็นค่าคนเข้าชม 3 คน คนละ 40 บาท และค่ารถอีก 30 บาท เจ้าหน้าที่รีบบอกก่อนเลยว่า..น้ำตกปางสีดายังไม่ค่อยมีน้ำนะครับ โป่งผีเสื้ออยู่เลยน้ำตกไปเล็กน้อย และถ้าจะขึ้นจุดชมวิวให้แวะศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน.. ได้เลยค่า
เราแวะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อดูข้อมูล พี่ที่นั่นน่ารักมากกก ให้ข้อมูลหลายอย่าง รวมทั้งเส้นทางที่เราจะไปเที่ยวต่อที่ละลุด้วย เพราะเราไม่อยากย้อนกลับเข้าเมืองอีก
ที่นี่อับสัญญาณมือถือ เพราะฉะนั้นเขาจะนับจำนวนคนขึ้นลงจุดชมวิว (อยู่ห่างไปอีกประมาณ 26 กม.) คงกลัวคนหลงป่ามั้ง
พี่เขายืนยันว่าน้ำตกน้ำน้อย ถ้าจะมาเที่ยวน้ำตก ให้มาสักเดือนหน้าจะดีกว่า เราเลยถ่ายรูปกะรูปน้ำตกไปก่อนแล้วกัน จะได้ไม่เสียเที่ยว ^^ จากรูปน้ำตกดูสวยดีนะคะ
แล้วเราก็ตรงมาโป่งผีเสื้อ แปลกใจว่า เขาทำให้อยู่ตรงสองข้างทางถนนที่จะขึ้นไปจุดชมวิว มันค่อนข้างอันตราย เพราะมีรถผ่านเข้าออกอยู่เป็นระยะๆ อุบัติเหตุเกิดขึ้นง่ายๆนะคะ หรือจะเป็นเพราะเขาอยากได้แสงแดด ตรงนี้เป็นถนนทำให้แดดส่องถึง ถ้าไปทำตรงอื่นอาจจะต้องตัดต้นไม้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ป้าก็คิดไปเรื่อย
ช่วงแรก ฟ้าครึ้ม แดดยังไม่ค่อยมี ก็มีผีเสื้้ออยู่บ้าง บินไปบินมาไม่อยู่นิ่งเลย เราก็ถ่ายรูปกันไม่ทัน ถ่ายมาพอดูได้สักรูป ก็ตื่นเต้นแล้ว 555 เปลี่ยนเป็นลองถ่ายคลิป ก็พอกัน ไม่ทันเลย
ที่ตรงโป่งผีเสื้อ มีเจ้าหน้าที่อุทยานอยู่กัน 3-4 คน คอยสำรวจคนขึ้นลงจุดชมวิว และมีท่านนึง ถือแผ่นรายละเอียดผีเสื้อ ชื่อและรูปของผีเสื้อแต่ละชนิด คอยชี้ให้นักท่องเที่ยวดู เพราะบางทีเราก็ไม่เห็น คอยถามว่าได้รูปผีเสื้อชนิดนั้นชนิดนี้หรือยัง แนะนำชื่อผีเสื้อที่เราเห็น มีทั้ง จรกา นางละเวง หนอนอะไรไม่รู้...กลับออกมาก็ลืมหมดแล้ว อิอิ
ช่วงแรกจะเห็นแต่แบบเนี้ยค่ะ สีน้ำตาล พวกนี้เค้านิ่งให้พอจะถ่ายได้บ้าง
พอเริ่มสาย แดดเริ่มออก ผีเสื้อก็ออกมาบินกันมากขึ้น เราก็ค่อยๆเริ่มพัฒนาฝีมือ จากถ่ายไม่ทัน เป็นทันบ้างไม่ทันบ้าง
แล้วก็เริ่มมีพันธ์แปลกๆให้เราดี๊ด๊า..
ภาพนี้...นางละเวงค่ะ เธอตัวใหญ่นะคะ ประมาณ 3 นิ้วได้กระมัง ตอนแรกเห็นตัวเดียว ตื่นเต้นมากกก ตอนหลังมีมาอีกหลายตัว
กลุ่มนี้ ลายสวยมาก มี 2 สี สีฟ้า กับสีเขียว แต่เธอบินไม่หยุด อยู่ไม่สุขจริงๆ
แดดเริ่มออก เราก็เริ่มร้อน เหงื่อออก ทีนี้คุณผีเสื้อเธอก็เริ่มมาวนเวียนกะเราบ้างแล้ว (แปลว่าเหงื่อเค็มมาก ^^)
คนอื่นก็ไม่ไปนะคะ มาหาแต่ป้าเนี่ยแหละ แล้วนิ่งเชียวนะ จะกลับกรุงเทพด้วยกันมั้ยจ๊ะ
ดูผีเสื้อนี่ เพลินดีจริงๆนะคะ แล้วก็ฝึกความอดทนด้วย ส่วนใหญ่เค้าจะหุบปีก เวลาหยุดเกาะอะไร เราก็เอากล้องส่อง คอยจะถ่ายตอนเค้าขยับปีก...เอ้า ใครจะความอดทนสูงกว่ากัน แต่เอาเข้าจริง พอเค้าขยับเปิดปีก เรากดชัตเตอร์ไม่ทัน 5555
ถ้าไม่ติดว่า เรามีที่เที่ยวอื่นคอยอยู่ คงได้ดูกันต่ออีกนาน ต้องขอบคุณคุณพี่ เจ้าหน้าที่อุทยานจริงๆ ลืมถามชื่อ แต่ทราบว่าภรรยาเปิดร้านอาหารอยู่ตรงทางเข้าอุทยาน ชื่อร้านปางสีดา ออกจากอุทยานไป อยู่ซ้ายมือนะคะ ตั้งใจว่า ถ้ามีโอกาสไปอีก จะแวะอุดหนุนค่ะ
ขอบคุณ เจ้า Canon G12 จริงๆ ใช้ โหมด auto อย่างเดียวเลย สำหรับการถ่ายรูปครั้งนี้ ออกมาดูได้ขนาดนี้ ช่างเหมาะกับคนชอบถ่ายรูป แต่ไม่มีฝีมืออย่างป้าจริงจริ๊งงง
อ้อ ต้องขอบคุณน้องนักถ่ายรูปผีเสื้อที่ไปเจอที่นั่นด้วย น้องบอกชื่อผีเสื้อต่างๆให้ แถมแนะวิธีการถ่ายรูป ที่พี่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องให้อีกด้วย พี่(ป้า)เกือบจะยื่นกล้องให้ถ่ายให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วเชียว 5555
ที่จริงตามโปรแกรม เมื่อมาอุทยานแห่งชาติปางสีดาแล้ว ควรไปล่องเรือ ดู"นกอ้ายงั่ว" ที่อ่างเก็บน้ำพระปรงต่อ ซึ่งวันนี้ อากาศดี ไม่มีฝนเหมือนเมื่อวาน น่าจะล่องเรือได้ แต่ดูท่าทางเราจะไม่ค่อยมีเวลากันแล้ว ถ้าเรายังอยากจะไปละลุ ไปปราสาทสด๊กก๊อกธม โดยที่กลับบ้านไม่ดึกจนเกินไป (ที่จริง น่าจะพูดว่า..เราจะได้ไม่ไปถึงปราสาทยามโพล้เพล้ เพราะเข้าใจว่า น่าจะดูวังเวงอยู่ ^^)
แต่ไหนๆ เรามาถึงตรงนี้แล้ว ก็ขับรถเข้าไปดูอ่างเก็บน้ำพระปรงกันหน่อย เพราะแยกจากถนนเข้าไปแค่ 9 กม.เอง เข้าไปถึง เป็นอ่างเก็บน้ำใหญ่ ที่ด้านล่างริมน้ำ มีร้านอาหารใหญ่ เขาทำเป็นซุ้มให้นั่งทานข้าว ลมเย็นๆ อาหารก็ฝีมือใช้ได้ แล้วมีให้เช่าห่วงยางเล่นน้ำกันด้วย ดูแล้วน่าสนุก...
ความสุขง่ายๆ ราคาไม่แพง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น