วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

"อาหารชาววัง" ที่เวียดนาม

วันนี้จะมาเล่าสู่กันฟังถึง “อาหารชาววัง” ที่เวียดนาม ^^

ถ้าพูดถึงอาหารชาววัง พวกเราคนไทยจะคุ้นๆอยู่ เพราะเรามีโอกาสได้ลิ้มรสมือชาววังที่มาทำร้านอาหารกันอยู่หลายวัง โดยเฉพาะข้าวแช่ชาววังตอนหน้าร้อน แต่พอพูดถึงอาหารชาววังของเวียดนามแล้ว ออกแปลกใจ ก็ตั้งแต่จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย สละราชสมบัติ ในปี 1945 และต้องออกจากเวียดนามถือว่าสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ตั้งแต่ประมาณปี 1955   นับมาถึงวันนี้ ก็เกือบ 60  ปีแล้ว จะเอาชาววังที่ไหนมาโชว์ฝีมือให้เราชิมกัน ถามๆ คุณท่านก็ว่า ร้านนี้เขาว่าสืบเชื้อสายมาจากชาววังสมัยราชวงศ์เหวียน ตอนนี้เวียดนามเปิดประเทศมากขึ้น ก็เลยออกมาเปิดตัว
มาเวียดนามหลายรอบ ตั้งแต่คุณท่านมาอยู่ที่นี่ ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สาม แต่เป็นครั้งแรกที่ท่านพาออกมาทานอาหารเวียดนาม แปลว่า ต้องอร่อย !!! 

มาถึงร้าน....อือม์ ร้านสวยยยยยค่ะ แต่เราเป็นโต๊ะเดียวในร้าน (คุณท่านว่า เคยมาเย็น เต็มทุกโต๊ะ) เมนูอาหารมีทั้ง set menu และ  a la carte สรุปพวกเรา(คุณท่าน)เลือกเป็น set menu 3 มี 8 รายการด้วยกัน

ระหว่างรออาหาร เค้ายกผ้าเช็ดมือมาวาง มองแล้ว เอ่อ...ไอ้เจ้า อบเชย กานพลู กะโป๊ยกั๊ก ที่วางข้างๆผ้านี่ เอามาทำอารัยคะ กินไม่ได้นี่ อ้อ...เขาตกแต่งและให้มีกลิ่นหอมๆน่ะ


รายการแรก ยกมาแล้วค่ะ Crab and pumpkin soup with Lemongrass, ginger and muchroom  เขาเสริฟมาในฟักทองลูกเล็กๆ ขนาดใหญ่กว่ากำปั้นนิดนึง กำลังน่ารัก มีมะนาวซีกหนึ่งและพริกแดงซอยใส่ถ้วยเล็กมาให้  ชิมดูนิดนึง รสชาติกลมกล่อม มีเนื้อปู เนื้อฟักทองหั่นเต๋าเล็กๆ กับเห็ดชิ้นบางๆ รสเนียนๆดี

แต่เมื่อเขามีมะนาวกับพริกมาให้ เราลองใส่สักหน่อย บีบมะนาวใส่ไปหน่อย และเขี่ยพริกลงไปครึ่งนึง โอ้ แม่เจ้า....รสเปลี่ยน ให้ความรู้สึกคนละอย่างกับที่ชิมตอนแรกเลย จากรสเนียนๆ เปลี่ยนเป็นรสแหลมๆ สดชื่น...เลยล่ะ  แต่ ไอ้เจ้าพริกนั่น แป๊บเดียว ต้องรีบตักออก เผ็ดมากกก  ขนาดป้าทานเผ็ดได้นะ เพิ่งรู้พิษสงพริกเมืองนี้

จานที่สองค่ะ เขาเอาข้าวเกรียบใส่ตะกร้ามาวางไว้ให้ แล้วยกชามใส่ Pamelo salad with prawns & chicken, flavored with Vietnamese herbs  เข้ามาตักเสริฟให้ทีละคนๆ
ก็เรียกแบบไทยๆว่า ยำส้มโอล่ะค่ะ แต่เขาไม่จี๊ดจ๊าดแบบบ้านเรา เขาจะออกเปรี้ยว เค็ม หวาน กลางๆ ไม่มีรสอะไรเด่นไปกว่ากัน ให้กินกับข้าวเกรียบนะคะ รสเบาๆ คิดว่า เขาต้องชิมส้มโอก่อนจะปรุงรส ถึงออกมาพอดิบพอดีขนาดนี้

จานที่สามนะคะ Browned, vermicelli-wrapped minced scallops with apple & pear  คล้ายๆทอดมันกุ้งบ้านเราค่ะ แต่เหมือนจะหนึบๆกว่าหน่อย แล้วเขาไม่ได้ใช้เกล็ดขนมปัง เขาเอาตัวทอดมันไปเกลือกๆกับเส้นหมี่บางๆก่อน ค่อยนำไปทอด จานนี้ดีค่ะ ทอดมาไม่อมน้ำมันเลยสักนิด ทานกับน้ำจิ้มบ๊วย

จานที่สี่ Steamed snowfish served in soya sauce and covered with sliced spring onion, shredded ginger and herbs เขียนซะยืดยาวเลย ก็ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วนั่นล่ะค่ะ อร่อยมาก ปลาสด ไม่มีกลิ่นคาว น้ำซีอิ๊วก็เค็มกำลังดี อร่อยๆๆ

จานที่ห้า  Grilled beef in bamboo pipes, topped with spring onion in olive oil and crispy peanuts คิดว่า เป็นจานที่ดูเป็นเด่นในการเสริฟ  เป็นทำนองเนื้อผัดพริกอะค่ะ แต่ไม่มีพริกไม่เผ็ด รสชาติจะมีเค็มๆเปรี้ยวนิดๆ แล้วมีหวานติดปลายลิ้น หอมกลิ่นสมุนไพรกับอะไรบางอย่าง ซึ่งเราสรุปกันว่า หอมกลิ่นกระบอกไม้ไผ่อะค่ะ

เขายกมาเสริฟ เราเห็นกระบอกไม้ แอบคิดว่าแล้วจะกินยังงัย กินในกระบอกเหรอ ไม่ด๊ายยยไม่ได้หรอกค้า... เสียชื่อชาววังหมด เขาเสริฟโดยยกกระบอกไม้ไผ่คว่ำเทเนื้อใส่ชามให้เราค่ะ เขาต้องยกมาทั้งกระบอกให้เราเห็นกรรมวิธีการทำก่อน แล้วจึงจะเสริฟให้กิน คิดว่า ถ้าเป็นฝรั่ง คงจะตื่นตาตื่นใจดี กระบอกไม้ไผ่นี่ดูเป็นตะวันออกมากมาย

จานที่หก และ เจ็ด เขาเสริฟมาเป็นจานรวม พร้อมกันกับข้าวคนละถ้วยค่ะ  Grilled duck breast in orange sauce และ Stired-fried mixed garden vegetables with olive oil ก้อเป็ดอบส้ม กะผัดผักรวมนั่นแล  เป็ดก็นุ่มดี แต่ส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบกินเป็ดอบส้มสักเท่าไหร่ อ่านเมนูแล้วก็แอบทึ่งว่า เขาช่างสรรคำมาเขียน แทนที่จะ fried mixed vegetables ธรรมดาๆ ยังอุตส่าห์ใส่คำว่า garden เข้าไป ให้ดูพิเศษขึ้นมาได้ พิถีพิถันสมเป็นชาววังจริงๆ

ตอนทานข้าวเนี่ย เราเอาเนื้อจานเมื่อกี้ที่ยังเหลืออยู่ มาใส่พริกแดงซอยลงไป แหม...เหมือนกินข้าว เนื้อผัดกระเพราเลยค่า ^^

อิ่มมากเลย ถึงเวลาของหวานแล้วค่ะ Trio of crème brulees : green tea, passion fruit and ginger  เสริฟมาในถ้วยตะไลเล็กๆสามใบค่ะ green tea ออกรสขมนิดๆ , passion fruit  แทบไม่มีรสเด่นขึ้นมา ถ้าไม่บอก อาจเดาไม่ออกว่ารสอะไรนะคะ ส่วน ginger  หอมกลิ่นขิงค่ะ ส่วนตัวชอบที่สุด


เป็นมื้อที่เห็นถึงความพิถีพิถันของการทำอาหาร รสชาติอาหารอร่อยทุกจาน ละเมียดละไมในการเสริฟ ปราณีตสมกับเป็นชาววังจริงๆ โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าพูดถึงความชอบในรสชาติอาหาร ขอยกให้ ซุปฟักทอง ยำส้มโอ และปลานึ่ง เป็นเลิศ ส่วนเรื่องการเสริฟแล้ว ชอบเนื้อในกระบอกไม้ไผ่ค่ะ แต่ว่า ใน  set  ที่มี 8 รายการด้วยกัน ออกจะมากไปหน่อย อิ่มเกินไปนิดค่ะ โดยรวม สรุปได้ว่า enjoy มื้อนี้มาก สมกับการได้มากินอาหารเวียดนามที่ฮานอยเป็นครั้งแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น